จํานวนผู้เข้าชม

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ฉลามวาฬ

ปลาฉลามวาฬ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ฉลามวาฬ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 60–0 Ma PreЄЄOSDCPTJKPgN ปลาฉลามวาฬจากไต้หวันในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจอร์เจีย เปรียบเทียบขนาดกับมนุษย์ สถานะการอนุรักษ์ ไม่มั่นคง (IUCN 2.3)[1] การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ อาณาจักร: Animalia ไฟลัม: Chordata ชั้น: Chondrichthyes ชั้นย่อย: Elasmobranchii อันดับ: Orectolobiformes วงศ์: Rhincodontidae (Müller and Henle, 1839) สกุล: Rhincodon Smith, 1829 สปีชีส์: R. typus ชื่อวิทยาศาสตร์ Rhincodon typus (Smith, 1828) พิสัยของปลาฉลามวาฬ ปลาฉลามวาฬ (อังกฤษ: Whale shark) เป็นปลาฉลามเคลื่อนที่ช้าที่กินอาหารแบบกรองกิน เป็นปลาขนาดใหญ่ที่สุด ยาวถึง 12.65 ม. หนัก 21.5 ตัน แต่มีรายงานที่ไม่ได้รับยืนยันว่ายังมีปลาฉลามวาฬที่ใหญ่กว่านี้ เป็นปลาชนิดเดียวในสกุล Rhincodon และวงศ์ Rhincodontidae (ก่อนปี ค.ศ. 1984 ถูกเรียกว่า Rhinodontes) ซึ่งเป็นสมาชิกในชั้นย่อย Elasmobranchii ในชั้นปลากระดูกอ่อน ปลาฉลามวาฬพบได้ในทะเลเขตร้อนและอบอุ่น อาศัยอยู่ในทะเลเปิด มีช่วงอายุประมาณ 70 ปี[2] ปลาฉลามชนิดนี้กำเนิดเมื่อประมาณ 60 ล้านปีมาแล้ว อาหารหลักของปลาฉลามวาฬคือแพลงก์ตอน ถึงแม้ว่ารายการแพลนเน็ตเอิร์ธของบีบีซีจะถ่ายภาพยนตร์ขณะที่ปลาฉลามวาฬกำลังกินฝูงปลาขนาดเล็กไว้ได้[3] เนื้อหา [ซ่อน] 1 ศัพทมูลวิทยา 2 การกระจายพันธุ์และถิ่นอาศัย 3 ลักษณะ 4 อาหาร 5 อ้างอิง 6 แหล่งข้อมูลอื่น [แก้]ศัพทมูลวิทยา ปลาฉลามวาฬมีชื่อเสียงในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1828 ตามตัวอย่างยาว 4.6 ม.ที่จับได้ด้วยฉมวกในอ่าวเทเบิล ประเทศแอฟริกาใต้ หมอทหารที่ชื่อ แอนดริว สมิท (Andrew Smith) ได้ร่วมกับค่ายทหารของอังกฤษในเคปทาวน์บรรยายและจำแนกปลาฉลามวาฬในปีถัดมา[4] เขาตีพิมพ์ลักษณะรายละเอียดมากขึ้นในปี ค.ศ. 1849 ชื่อ "ฉลามวาฬ" มากจากลักษณะของปลาที่มีขนาดใหญ่เหมือนวาฬและยังกินอาหารแบบกรอกกินเหมือนกันอีกด้วย ในความเชื่อในศาสนาของชาวเวียดนาม นับถือปลาฉลามวาฬเป็นเทพเจ้า โดยเรียกว่า "Ca Ong" ซึ่งแปลว่า "ท่านปลา" ในประเทศเม็กซิโกและละตินอเมริกาส่วนมาก ปลาฉลามวาฬถูกรู้จักกันในชื่อ "pez dama" หรือ "domino" มาจากจุดที่เด่นชัดบนตัวมัน ในประเทศเบลีซ รู้จักกันในนาม "Sapodilla Tom" เพราะมักจะพบปลาฉลามวาฬอย่างสม่ำเสมอ ใกล้กับ Sapodilla Cayes ในกำแพงโขดหินแห่งเบลีซ (Belize Barrier Reef) ในทวีปแอฟริกา ชื่อของปลาฉลามวาฬถูกเรียกกันหลากหลาย: ประเทศเคนยาเรียกว่า "papa shillingi" มาจากตำนานที่ว่าเทพเจ้าได้ขว้างเหรียญเงินลงไปบนตัวปลาฉลามซึ่งได้กลายเป็นจุดของมันในปัจจุบัน ประเทศมาดากัสการ์เรียกว่า "marokintana" หมายถึง "ดาวหลายดวง" ชาวชวาก็อ้างอิงถึงดวงดาวด้วยเช่นกัน จึงเรียกปลาฉลามวาฬว่า "geger lintang" แปลว่า "มีดาวอยู่บนหลัง" ในประเทศฟิลิปปินส์เรียกว่า "butanding" [แก้]การกระจายพันธุ์และถิ่นอาศัย ปลาฉลามวาฬอาศัยอยู่ในทะเลเขตร้อนและเขตอบอุ่น ตามผิวทะเล นอกจากนี้ในฤดูที่มีปรากฏการณ์การรวมตัวกันของแหล่งอาหารใกล้แนวชายฝั่งสามารถพบฉลามวาฬได้เช่นกัน เช่นใน โกลด์เดน สพิต (Gladden Spit) ในประเทศเบลีซ; แนวโขดหินนิงกาโล (Ningaloo Reef) ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย; อูตีลา (Útila) ใน ประเทศฮอนดูรัส; โดนโซล (Donsol), พาซาจาโอ (Pasacao) และ บาตันกัส (Batangas) ใน ประเทศฟิลิปปินส์; ชายฝั่งอิสลา มูเคร์เรส (Isla Mujeres) และอิสลา ออโบซ (Isla Holbox) ในยูคตัน (Yucatan) ประเทศเม็กซิโก; อุทยานแห่งชาติอูจุงกูลอนในประเทศอินโดนีเซีย; โนซี บี (Nosy Be) ในประเทศมาดากัสการ์ รอบแนวโขดหินโตโฟ (Tofo) ใกล้กับอินอัมบันเน (Inhambane)ในประเทศโมซัมบิก, และเกาะมาเฟีย (Mafia), เพมบา (Pemba) และ แซนซิบาร์ ในประเทศแทนซาเนีย ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วจะพบอยู่ห่างจากชายฝั่ง แต่ก็มีการพบปลาฉลามวาฬใกล้แผ่นดินเช่นกัน อย่างในทะเลสาบหรือเกาะรูปวงแหวนที่เกิดจากหินปะการัง และใกล้กับปากแม่น้ำ โดยมีพิสัยจำกัดอยู่ในเส้นรุ้งประมาณ ±30° ความลึกไม่เกิน 700 ม. และท่องเที่ยวเร่ร่อนไปทั่ว[2] [แก้]ลักษณะ ลักษณะของฉลามวาฬที่แตกต่างจากฉลามที่เรารู้จักกันคือ หัวที่ใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับขนาดลำตัว และปากที่อยู่ด้านหน้าแทนที่จะอยู่ด้านล่าง ฉลามวาฬ เกือบทั้งหมดที่พบมีขนาดใหญ่กว่า 3.5 เมตร ใช้เหงือกในการหายใจ มีช่องเหงือก 5 ช่อง มีครีบอก 2 อัน ครีบหาง 2 อัน และ ครีบก้น(หาง) 1 อัน หางของฉลามวาฬ อยู่ในแนวตั้งฉาก และโบกไปมาในแนวซ้าย-ขวา แตกต่างจากสัตว์เลือดอุ่นในทะเลที่หางอยู่ในแนวขนานและหายใจด้วยปอด อาทิ วาฬ โลมา พะยูน เป็นต้น [แก้]อาหาร กินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร แต่ลักษณะการกินอาหารไม่ใช่ปัจจัยที่นักวิทยาศาสตร์ใช้แบ่งฉลามวาฬออกจากฉลามชนิดอื่น ๆ เนื่องจากยังมีฉลามอีก 2 ชนิดที่ กินแพลงก์ตอนเป็นอาหารแต่อยู่คนละอันดับกับฉลามวาฬ [แก้]อ้างอิง ^ Norman, Brad (2000). Rhincodon typus. 2006 IUCN Red List of Threatened Species. IUCN 2006. Retrieved on 11 May 2006. Database entry includes justification for why this species is vulnerable. ^ 2.0 2.1 Ed. Ranier Froese and Daniel Pauly. "Rhincodon typus". FishBase. http://www.fishbase.org/Summary/SpeciesSummary.php?id=2081. เรียกข้อมูลเมื่อ 17 September 2006. ^ Jurassic Shark (2000) documentary by Jacinth O'Donnell; broadcast on Discovery Channel, August 5, 2006 ^ Martin, R. Aidan. "Rhincodon or Rhiniodon? A Whale Shark by any Other Name". ReefQuest Centre for Shark Research. http://elasmo-research.org/education/topics/ng_rhincodon_or_rhiniodon.htm. เรียกข้อมูลเมื่อ 2009-09-12. J. G. Colman (1997). A review of the biology and ecology of the whale shark. Journal of Fish Biology 51 (6), 1219–1234. FAO web page on Whale shark [แก้]แหล่งข้อมูลอื่น คอมมอนส์ มีภาพและสื่ออื่นๆ เกี่ยวกับ: ปลาฉลามวาฬ Whale Shark Photo-identification Library Maldives Whale Shark Research Program Report a whale shark sighting How to photograph a whale shark for mark-recapture research Whale shark research discussion forum Whale Sharks: Gentle Giants of the Seas Whale Shark research in Mozambique Whale Shark Project Albino whale shark photographed in Galapagos A whale shark recorded defecating

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น